การเทรด Forex แบบระยะยาว (Long-Term Trading) หรือที่เรียกว่า Position Trading คือการถือครองสถานะการซื้อขาย (Position) เป็นเวลานาน อาจเป็นสัปดาห์ เดือน หรือหลายเดือน เพื่อทำกำไรจาก แนวโน้ม (Trend) ใหญ่ของตลาด โดยจะเน้นไปที่การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) เป็นหลัก
การเทรดแบบนี้มีจุดเด่นคือ ความเครียดต่ำ เพราะไม่ต้องเฝ้าหน้าจอมาก แต่ต้องใช้ ความอดทน และมี การบริหารจัดการความเสี่ยง (Money Management) ที่เข้มงวด
วิธีการเทรด Forex แบบระยะยาว (Position Trading)
- เน้นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis)
การเทรดระยะยาวต้องทำความเข้าใจปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อมูลค่าของสกุลเงินในระยะยาว ซึ่งรวมถึง:
- นโยบายการเงิน: การเปลี่ยนแปลงของ อัตราดอกเบี้ย ของธนาคารกลาง (เช่น Fed, ECB, BoJ) เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด
- ข้อมูลเศรษฐกิจ: การเติบโตของ GDP, อัตราเงินเฟ้อ, อัตราการว่างงาน, และตัวเลขการจ้างงาน
- เหตุการณ์ทางการเมือง: การเลือกตั้ง สงคราม ความขัดแย้งทางการค้า หรือเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศ
- ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย (Carry Trade): การซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง และขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อรับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยข้ามคืน (Swap)
- ใช้กรอบเวลากราฟที่ใหญ่ (Higher Timeframes)
- นักเทรดระยะยาวจะใช้กราฟในกรอบเวลาที่ใหญ่ เช่น กราฟรายวัน (Daily), กราฟรายสัปดาห์ (Weekly), หรือ กราฟรายเดือน (Monthly) ในการวิเคราะห์และตัดสินใจเข้า/ออกออเดอร์
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) จะถูกใช้เพื่อหา จุดเข้าซื้อ (Entry), จุดตัดขาดทุน (Stop Loss – SL) และ จุดทำกำไร (Take Profit – TP) ในแนวโน้มหลักที่ได้จากปัจจัยพื้นฐาน
- การจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวด (Money Management)
นี่คือหัวใจสำคัญของการเทรดระยะยาว เพราะตลาดอาจมีความผันผวนย้อนกลับไป-มา (Drawdown) ก่อนจะวิ่งไปตามทิศทางที่คุณคาดการณ์:
- กำหนดความเสี่ยงต่อครั้ง: เทรดเดอร์มืออาชีพส่วนใหญ่มักแนะนำให้เสี่ยง ไม่เกิน 1-3% ของเงินทุนต่อการเทรดหนึ่งครั้ง
- อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk/Reward Ratio): ควรกำหนดให้ผลตอบแทนที่คาดหวังมีค่า มากกว่าความเสี่ยงอย่างน้อย 2-3 เท่า เช่น เสี่ยง $1 เพื่อแลกกับกำไร $3 (อัตราส่วน 1:3)
- ใช้ Lot Size ที่เล็ก: เนื่องจากต้องตั้ง Stop Loss ในระยะที่กว้าง (เพราะเป็นการเทรดระยะยาว) จึงจำเป็นต้องลดขนาด Lot Size ลงเพื่อควบคุมความเสี่ยงให้ไม่เกินเปอร์เซ็นต์ที่กำหนด
- พิจารณาเรื่องค่า Swap (Rollover Interest)
- การถือออเดอร์ข้ามคืนหรือข้ามสัปดาห์จะมีการคิดค่าธรรมเนียมหรือจ่ายผลตอบแทนที่เรียกว่า Swap
- Swap เป็นบวก: ถ้าคุณซื้อคู่สกุลเงินที่จ่ายดอกเบี้ยสูงกว่า คุณจะได้รับผลตอบแทนเป็นบวก (เหมาะกับการเทรดระยะยาว)
- Swap เป็นลบ: ถ้าคุณซื้อคู่สกุลเงินที่จ่ายดอกเบี้ยต่ำกว่า คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นลบ
- การเลือกเทรดคู่สกุลเงินที่มีค่า Swap เป็นบวก (Carry Trade) จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาวได้
สรุปขั้นตอนการเทรดระยะยาว
- วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน: พิจารณาว่าสกุลเงินใดกำลังแข็งค่า/อ่อนค่าในระยะยาว (เช่น EUR จะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ USD เพราะ…)
- กำหนดแนวโน้มหลัก: ใช้กราฟ Weekly หรือ Monthly เพื่อยืนยันแนวโน้มใหญ่
- หาจุดเข้า: ใช้กราฟ Daily หรือ H4 เพื่อหาจุดเข้าที่ดีที่สุดตามแนวโน้มหลัก (ใช้แนวรับ/แนวต้าน หรือ Indicator ง่าย ๆ)
- กำหนด SL และ TP: ตั้ง Stop Loss ให้กว้างเพียงพอที่จะรองรับความผันผวนระยะสั้น และตั้ง Take Profit ให้มี Risk/Reward ที่ดี (เช่น 1:3 หรือมากกว่า)
- คำนวณ Lot Size: คำนวณขนาดการเทรดที่เหมาะสมเพื่อให้ความเสี่ยงไม่เกิน 1-3% ของพอร์ต
ข้อควรจำ: การเทรดระยะยาวต้องอาศัยความเข้าใจที่ลึกซึ้งในเรื่องเศรษฐกิจในภาพรวมของทั้งประเทศหรือระดับโลก และต้องการเงินทุนที่เพียงพอเพื่อรองรับ Drawdown ที่อาจเกิดขึ้นนานหลายสัปดาห์หรือเดือนได้
