การเทรดสั้น หรือที่เรียกอีกอย่างว่า เทรดระยะสั้น (Short-term trading) หมายถึง กลยุทธ์การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น, ฟอเร็กซ์, สินค้าโภคภัณฑ์ ฯลฯ โดยใช้เวลาในการถือครองสถานะ (position) ตั้งแต่ไม่กี่วินาที, นาที, ชั่วโมง ไปจนถึงไม่เกิน 1-2 วัน
เป้าหมายหลัก ของการเทรดสั้น คือ การใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคาในระยะสั้น เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา (Price Action) โดยไม่ต้องรอคอยแนวโน้มระยะยาว
กลยุทธ์ ที่ใช้ในการเทรดสั้น มีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรด ความชอบ และระยะเวลาที่ใช้ ตัวอย่างกลยุทธ์ที่นิยม เช่น:
- Scalping: เทรดสั้นมาก ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีหรือไม่กี่นาที เน้นทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาในกรอบแคบ
- Day Trading: เทรดภายในวันเดียว ปิดสถานะทั้งหมดก่อนตลาดปิด เน้นทำกำไรจากแนวโน้มระยะสั้น
- Swing Trading: เทรดโดยถือครองสถานะข้ามวัน แต่อาจจะไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ เน้นทำกำไรจากแนวโน้มระยะสั้น
เครื่องมือ ที่ใช้ในการเทรดสั้น มีหลายประเภท เช่น:
- Technical Analysis: การวิเคราะห์ทางเทคนิค เน้นการวิเคราะห์รูปแบบราคา ดัชนีชี้วัดทางเทคนิค เพื่อหาจุดเข้าซื้อและขาย
- Fundamental Analysis: การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน งบการเงิน ข่าวสาร เพื่อประเมินมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์
ข้อดี ของการเทรดสั้น:
- ใช้เงินทุนน้อย: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีเงินทุนจำกัด
- ได้กำไรเร็ว: มีโอกาสทำกำไรได้เร็ว
- ควบคุมความเสี่ยงได้ง่าย: สามารถจำกัดความเสี่ยงได้โดยใช้ Stop-Loss
- เรียนรู้ได้ง่าย: กลยุทธ์บางรูปแบบเรียนรู้ได้ง่าย
ข้อเสีย ของการเทรดสั้น:
- ความเสี่ยงสูง: มีโอกาสสูญเสียเงินทุนสูง
- ใช้เวลา: ต้องใช้เวลาเฝ้าหน้าจอและติดตามตลาด
- ความเครียด: กดดัน
- ผลตอบแทนไม่แน่นอน: ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับความผันผวนของตลาด
สรุป
การเทรดสั้น เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีเงินทุนน้อย ต้องการผลตอบแทนเร็ว และสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ง่าย แต่เทรดสั้น ความเสี่ยงสูง ใช้เวลา กดดัน และผลตอบแทนไม่แน่นอน นักลงทุนควรศึกษาความรู้ ฝึกฝน และมีวินัยในการเทรด