ในตลาด Forex นั้น Divergence คือสัญญาณทางเทคนิค ที่บ่งบอกถึง ความแตกต่างระหว่างราคาของสกุลเงินกับตัวชี้วัดทางเทคนิค (indicator) ราคา อาจจะเคลื่อนที่ไปทางหนึ่ง และ indicator กลับเคลื่อนที่ไปอีกทาง โดยทั่วไป divergence ถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของราคา เทรดเดอร์สายวิเคราะห์ทางเทคนิคนิยมใช้ divergence เพื่อ คาดการณ์แนวโน้ม ของราคา Forex
ตัวชี้วัดหรือ indicator ทางเทคนิคที่นิยมใช้ดู divergence ได้แก่
- Relative Strength Index (RSI)
- Moving Average Convergence Divergence (MACD)
- Stochastic Oscillator
ประเภทของ Divergence แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้
- Bullish Divergence:
- ลักษณะ: ราคาทำจุดต่ำใหม่ แต่ indicator ไม่ได้ทำจุดต่ำใหม่
- สัญญาณ: แสดงว่าราคาอาจจะอ่อนแรง แต่โมเมนตัมขาขึ้นยังไม่หมด
- ตัวอย่าง:
- RSI: เส้น RSI เด้งขึ้นจากแนว oversold
- MACD: เส้น MACD ตัดเส้น signal ขึ้น
- Stochastic Oscillator: เส้น Stochastic Oscillator เด้งขึ้นจากแนว oversold
- Bearish Divergence:
- ลักษณะ: ราคาทำจุดสูงใหม่ แต่ indicator ไม่ได้ทำจุดสูงใหม่
- สัญญาณ: แสดงว่าราคาอาจจะแข็งแรง แต่โมเมนตัมขาลงกำลังเกิดขึ้น
- ตัวอย่าง:
- RSI: เส้น RSI ตัดเส้นกลางลง
- MACD: เส้น MACD ตัดเส้น signal ลง
- Stochastic Oscillator: เส้น Stochastic Oscillator ตัดเส้นกลางลง
ตัวอย่างการใช้ Divergence
ตัวอย่าง 1:
- กราฟ EUR/USD: ราคาทำจุดต่ำใหม่ 3 ครั้ง แต่ RSI ไม่ได้ทำจุดต่ำใหม่
- สัญญาณ: Bullish Divergence
- การวิเคราะห์: มีโอกาสที่ราคาจะเด้งกลับขึ้น
ตัวอย่าง 2:
- กราฟ GBP/USD: ราคาทำจุดสูงใหม่ 3 ครั้ง แต่ MACD ไม่ได้ทำจุดสูงใหม่
- สัญญาณ: Bearish Divergence
- การวิเคราะห์: มีโอกาสที่ราคาจะอ่อนตัวลง
ข้อควรระวัง
- Divergence ไม่ใช่สัญญาณที่แม่นยำเสมอไป ควรใช้ประกอบกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น ๆ
- การใช้ divergence ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบ เช่น แนวโน้มของราคา รูปแบบกราฟ ข่าวสาร ฯลฯ
- ควรศึกษาและฝึกฝนการใช้ divergence อย่างละเอียดก่อนนำไปใช้จริง