มาร์เก็ตเมกเกอร์ (Market Maker คือ) ผู้ที่ทำหน้าที่สร้างสภาพคล่องให้กับตลาดหลักทรัพย์ โดยทำหน้าที่เป็นผู้เสนอซื้อและเสนอขายหลักทรัพย์ในราคาที่กำหนดไว้ตลอดเวลา เพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอให้มีผู้ซื้อหรือผู้ขายรายอื่นเข้ามาในตลาด
มาร์เก็ตเมกเกอร์มีหน้าที่หลัก ดังนี้
- เสนอซื้อและเสนอขายหลักทรัพย์ในราคาที่กำหนดไว้ตลอดเวลา
- ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
- ช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
มาร์เก็ตเมกเกอร์จะทำหน้าที่เสนอซื้อและเสนอขายหลักทรัพย์ในราคาที่กำหนดไว้ โดยราคาที่เสนอจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพตลาด อุปสงค์และอุปทานของหลักทรัพย์ เป็นต้น มาร์เก็ตเมกเกอร์จะพยายามเสนอราคาที่ใกล้เคียงกับราคาตลาดมากที่สุด เพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างคุ้มค่า
มาร์เก็ตเมกเกอร์มีความสำคัญต่อตลาดหลักทรัพย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอให้มีผู้ซื้อหรือผู้ขายรายอื่นเข้ามาในตลาด ซึ่งทำให้ตลาดหลักทรัพย์มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มีมาร์เก็ตเมกเกอร์อยู่หลายราย โดยแต่ละรายจะทำหน้าที่เสนอซื้อและเสนอขายหลักทรัพย์ในประเภทต่างๆ ที่แตกต่างกัน เช่น หุ้น ตราสารหนี้ อนุพันธ์ เป็นต้น
ตัวอย่างตลาดเมกเกอร์ในไทย เช่น
- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารกสิกรไทย
- บล.บัวหลวง
- บล.ไทยพาณิชย์
มาร์เก็ตเมกเกอร์มีบทบาทสำคัญต่อตลาดหลักทรัพย์เป็นอย่างมาก โดยช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนี้
- ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว มาร์เก็ตเมกเกอร์ทำหน้าที่เป็นผู้เสนอซื้อและเสนอขายหลักทรัพย์ในราคาที่กำหนดไว้ตลอดเวลา ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้โดยไม่ต้องรอให้มีผู้ซื้อหรือผู้ขายรายอื่นเข้ามาในตลาด ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการซื้อขายหลักทรัพย์ลงได้ ทำให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างทันท่วงที
- ช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น มาร์เก็ตเมกเกอร์ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดหลักทรัพย์ ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้มากขึ้น ซึ่งทำให้ตลาดหลักทรัพย์มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น กล่าวคือ ตลาดหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง จะช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ช่วยลดความเสี่ยงในการซื้อขายหลักทรัพย์ และทำให้ราคาหลักทรัพย์สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ มาร์เก็ตเมกเกอร์ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์มีความโปร่งใสและน่าเชื่อถือมากขึ้น เนื่องจากมาร์เก็ตเมกเกอร์ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์อย่างเคร่งครัด โดยกฎเกณฑ์และข้อบังคับเหล่านี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ตลาดเมกเกอร์ฉวยโอกาสในการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว
อย่างไรก็ตาม มาร์เก็ตเมกเกอร์ก็อาจถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจหน้าที่ของตนเพื่อปั่นป่วนตลาดได้ เนื่องจากมาร์เก็ตเมกเกอร์สามารถเสนอซื้อและเสนอขายหลักทรัพย์ในราคาที่กำหนดไว้ได้ ซึ่งอาจทำให้ราคาหลักทรัพย์ผันผวนได้ อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีกลไกในการกำกับดูแลมาร์เก็ตเมกเกอร์ เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสในการซื้อขายหลักทรัพย์
โดยสรุปแล้ว มาร์เก็ตเมกเกอร์มีบทบาทสำคัญต่อตลาดหลักทรัพย์เป็นอย่างมาก โดยช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์มีความโปร่งใสและน่าเชื่อถือมากขึ้น